แถลงข่าวงานประเพณีกวนข้าวทิพย์ และงานประเพณีสงกรานต์ถนนข้าวทิพย์ สนุกปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ ประจำปี พ.ศ. 2568

วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม 2568 เวลา 16.20 น. นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน และร่วมแถลงข่าวงานประเพณีกวนข้าวทิพย์ และงานประเพณีสงกรานต์ถนนข้าวทิพย์ สนุกปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ ประจำปี พ.ศ. 2568 ร่วมกับ นายสมพงษ์ ภิรมย์ชม ปลัดเทศบาลเมืองจันทบุรี, ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี, นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า, สรรพสามิตพื้นที่จันทบุรี, วัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจันทบุรี, ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า, หัวหน้างานกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูจันทบุรี และอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ร่วมแถลงข่าว ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (ชั้นล่าง)

เทศบาลเมืองจันทบุรี ร่วมกับ วัดใหม่เมืองจันท์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจันทบุรี, สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี และกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กำหนดจัดงานส่งเสริมประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 12 – 13 เมษายน 2568 โดยในวันที่ 12 เมษายน 2568 ภาคเช้า เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป พิธีเปิดงานโครงการส่งเสริมประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2568 และพิธีกวนข้าวทิพย์ ปีที่ 62 ณ ปะรำพิธีวัดใหม่เมืองจันท์ ภาคบ่าย เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป

กิจกรรมขบวนแห่ส่งเสริมประเพณีสงกรานต์ ณ ลานกีฬาคนรักจันท์ เทศบาลเมืองจันทบุรี ภาคค่ำ เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป พิธีเปิดงาน “อาบน้ำพระจันทร์ สงกรานต์ราตรี วิถีจันท์” ภายใต้กิจกรรม เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์จันทบุรี 2568 (Maha Songkran World Water Chanthaburi Festival 2025) โดยทำการโยนลูกบอลพระจันทร์ให้กับประชาชน “สงกรานต์กลางคืน ภายใต้ความปลอดภัย ถนนข้าวทิพย์ (ถนนสายท่าแฉลบ)” ณ ลานกีฬาคนรักจันท์ ในส่วนของวันที่ 13 เมษายน 2568 ภาคเช้า เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป พิธีเปิดโครงการฯ และกิจกรรมรณรงค์เล่นน้ำอย่างปลอดภัย กับ สสส. กิจกรรมการแสดงจากชมรมลีลาศเพื่อสังคมและการกีฬา เทศบาลเมืองจันทบุรี กิจกรรมพิธีสรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ณ วัดใหม่เมืองจันท์ และภาคค่ำเวลา 18.30 น. เป็นต้นไป กิจกรรมมหรสพดนตรี ณ ลานกีฬาคนรักจันท์

ทั้งนี้ เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีสงกรานต์ให้คงอยู่ สืบทอดมรดกด้านประเพณีวัฒนธรรมไทย ทั้งยังสนับสนุนประชาชนได้มีโอกาสร่วมทำบุญ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโส เป็นการเสริมสร้างพื้นฐานทางจิตใจอันดีงาม และเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และท้องถิ่นต่อไป